8) เหตุการณ์โศกนาฎกรรมชาเลนเจอร์เมื่อปี 1986 ของจริงหรือของปลอม?? (ตอนที่ 2)

8) เหตุการณ์โศกนาฎกรรมชาเลนเจอร์เมื่อปี 1986 ของจริงหรือของปลอม?? (ตอนที่ 2)

ดูภาพกันให้ชัด ๆ อีกที

เมื่อซักประมาณปี 2015 เริ่มมีการออกมาให้ข้อมูลว่านักบิน 6 คนจากโครงการ Challenger ยังมีชีวิตอยู่ ยังใช้ชื่อเดิม ทำงานหาเลี้ยงชีพตามปกติ ลองมาดูรายละเอียดกันว่าเค้าเอาอะไรมาให้ดูเป็นหลักฐาน แล้วลองพิจารณากันดูเองนะ ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่อยากให้คิดเองจากข้อมูลที่นำเสนอ

เริ่มจากแถวด้านหน้าซ้ายมือคนแรกคือ

1) Michael J. Smith

Michael J. Smith เป็นนักบินอวกาศของ NASA ตอนปี 1986 อายุ 40 ปี ด้านขวามือนี่คือ Michael J. Smith (ในข้อมูลบอกว่าอายุ 69 ปี) เป็นโปรเฟสเซอร์สอนด้านวิศวกรรมอยู่ที่ University of Wisconsin - Madison


2) Francis Richard Scobee (หรือ Dick Scobee)

Francis Richard Scobee เป็นนักบินอวกาศของ NASA ตอนปี 1986 อายุ 46 ปี ด้านขวามือนี่คือ Richard Scobee เป็นเจ้าของและเป็น CEO ของบริษัท Cows in Trees, Ltd. ทำธุรกิจเกี่ยวกับงานโฆษณา

อันนี้กราฟฟิกจากหน้าเว็บของบริษัท www.cowsintrees.com แต่ตอนนี้เว็บเข้าไม่ได้ละ

ภาพประกอบที่บริษัทนี้ใช้ตอนเขียนบทความเพื่อประชาสัมพันธ์การออกตัวโครงการรักษาสุขภาพของบริษัท

ในเนื้อหาที่โพสเล่าให้ฟังว่าประวัติของ Scobee น่าสนใจตรงที่ลูกชายของเค้าบังเอิญได้มาเป็นรองผู้อำนวยการปฏิบัติการ NORAD (ซึ่งแน่นอนว่าถูกกล่าวหาว่าล้มเหลวจากการป้องกันการจี้เครื่องบินตอนเหตุการณ์ 9/11)

อันนี้เป็นคลิปวิดีโอที่ภรรยาและลูกชายของ Scobee มาร่วมงานรำลึกเหตุการณ์ชาเลนเจอร์ในปี 2016 

Scobee family reflects on Challenger tragedy

3) Ronald Mc Nair

ด้านซ้ายคือ Ronald Mc Nair  เป็นนักบินอวกาศของ NASA ตอนปี 1986 อายุ 35 ปี ส่วนอีกสองภาพด้านขวานี่คือ Carl Mc Nair ซึ่งอ้างว่าเป็นน้องชายของ Ronald อาจจะดูไม่เหมือนกันเท่าไหร่ แต่คนโพสบอกว่าให้สังเกตแผนเป็นที่คางที่เค้าวงไว้ให้ดูว่าเหมือนกันเด๊ะ

ลองเข้าไปดูในลิงค์นี้ได้ ภาพขยายใหญ่มาก http://cluesforum.info/viewtopic.php?t=935&start=780

คนแรกซ้ายมือที่ยืนด้านหลัง

4) Ellison Onizuka

ด้านซ้ายมือคือ Ellison Onizuka เป็นนักบินอวกาศของ NASA เมื่อปี 1986 อายุ 39 ปี ส่วนด้านขวามือนี่คือน้องชายคนเล็กของเค้าชื่อว่า Claude Onizuka เป็นคณะกรรมการสุราของกรมควบคุมสุราในฮาวาย คนโพสบอกว่า Ellison กับ Claude นี่เหมือนกันมาก คิ้วเหมือนกัน ตาเหมือนกัน ตีนกาก็เหมือนกัน จมูกก็ทรงเดียวกัน แม้แต่การแสกผมยังเหมือนกัน ส่วนด้านล่างนี่คือภาพของน้องชายถ่ายคู่กับภรรยาของพี่ชาย

อืม!!! ดูจะใกล้ชิดกันมากทีเดียว

Claude ให้สัมภาษณ์ในวันเปิดงานวันวิทยาศาสตร์ Ellison Onizuka Science Day

ที่มหาวิทยาลัย University of Hawaii เมื่อ 27 มกราคม 2012

5) Sharon Christa McAuliffe

ด้านซ้ายคือดาวเด่นของภารกิจนี้ Sharon Christa McAuliffe คุณครูสาวคนเก่งที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นลูกเรือโดยมีภารกิจต้องสอนวิทยาศาสตร์จากอวกาศและทำการถ่ายทอดสดมาให้เด็ก ๆ ได้ดู ตอนนั้นเธออายุ 37 ปี และด้านขวานี่คือ Sharon A. McAuliffe เป็นทนายความและเป็นโปรเฟสเซอร์สอนด้านกฎหมายอยู่ที่ Syracuse University 

ข้อมูลที่เค้าหามามีความน่าสนใจตรงที่ Sharon เป็นญาติกับ Terry McAuliffe ซึ่งเป็นผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย และเป็นกรรมการรณรงค์การเลือกตั้งของ Bill Clinton ในปี 1996 และเป็นกรรมการรณรงค์การเลือกตั้งให้กับ Hillary Clinton ในปี 2008 ด้วย

นอกจากนั้น Terry ยังให้ความสำคัญกับโครงการของ NASA อยู่เสมอ เช่น เข้าร่วมประชุมเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับ NASA

ข่าวนี้บอกว่า Terry พยายามขอเงินทุนจากรัฐบาลกลางเพื่อซ่อมแซมคันโยกจรวดของรัฐบนเกาะ Wallops ประมาณ 13 - 20 ล้านเหรียญ จากงบกลางกว่า 150 ล้านเหรียญที่รัฐใช้เกี่ยวกับฐานปล่อยจรวด

http://www.richmond.com/business/article_4adc8e64-eccb-5c30-bf0e-50e0f8a9c119.html

ส่วนภาพนี้ Terry ไปร่วมพิธีเปิดตึก Integrated Engineering Services Building ของ NASA

6) Judith Resnik

ด้านซ้ายคือ Judith Resnik เป็นนักบินอวกาศของ NASA เมื่อปี 1986 อายุ 36 ปี และด้านขวาคือ Judith Resnik เป็นโปรเฟสเซอร์สอนกฎหมายที่มหาวิทยาลัย Yale 

Judith ค่อนข้างมีข้อมูลเยอะเพราะเธอมีการคนถ่ายคลิปการสอนของเธอไว้ เธอมีประชุมสัมมนาตลอด ได้รับรางวัลทางด้านวิชาการเยอะ และเธอยังปรากฎตัวในหนังภาพยนตร์เรื่อง Fair Game ด้วย

Judith Resnik in Fair Game, cameo

ฝรั่งบางคนก็แสดงความเห็นว่าไม่เหมือนกันนะ 

อันนี้เค้าให้สังเกตที่ริมฝีปากด้านบน ก็คล้าย ๆ นะ

อันนี้เค้าก็พยายามให้สังเกตการใช้มือ และการพูด คล้ายกันมาก

สำหรับประเด็นเรื่องนักบินอวกาศก็จะนำเสนอข้อมูลแค่นี้ละกัน

อ้างอิง

• https://aplanetruth.info/2015/04/23/breaking-news-theyre-alive-challenger-space-shuttle-crew-safe-and-employed/
• http://cluesforum.info/viewtopic.php?t=935&start=780
• https://fellowshipoftheminds.com/2015/05/09/who-really-are-the-deadringer-brothers-of-dead-challenger-astronauts
• https://forum.davidicke.com/showthread.php?t=291938

สำหรับตอนจบนี้จะให้ดูการสัมภาษณ์ของ Dr. Richard Feynman (ดร. ริชาร์ด ฟายน์แมน) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลที่ได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์ระเบิดของ Challenger แต่ขอลาออกไม่ร่วมลงนามในรายงานชิ้นนั้น

CNN, Feynman and the Challenger disaster

นาทีที่ 2.37 ดร. ริชาร์ดเริ่มให้สัมภาษณ์กับ CNN

นักข่าว: "เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุใช่ไหม"

ดร. ริชาร์ด: "ใช่ มันเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็มีสัญญาณเตือนอยู่หลายครั้งว่ามีสิ่งผิดปกติ และมันเกิดขึ้นแน่ไม่ว่าช้าหรือเร็ว แต่มันถูกละเลยไม่ใส่ใจ"

นักข่าว: "เป็นการละเลยด้วยเหตุผลอะไร เพราะไม่มีความสามารถ เพราะความผิดพลาดของระบบ เพราะการตัดสินใจที่ผิด หรือด้วยเหตุผลอะไร"

ดร. ริชาร์ด: "มันก็อธิบายยาก ลองคิดดูว่ามีเด็กคนนึงวิ่งเล่นอยู่กลางถนน และพ่อแม่ก็กำลังโมโหมากบอกว่ามันอันตรายนะ แล้วเด็กก็สวนกลับมาว่าไม่มีอะไรหรอก ไม่เป็นไร แล้วก็วิ่งออกไปถนนอีก วิ่งไปวิ่งมา พ่อแม่ก็เตือนว่ามันอันตรายนะ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเด็กคนนั้นมองว่าการที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหมายถึงว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นยังงั้นหรือ นั่นจะเป็นอุบัติเหตุได้ไหม ถ้าเรารู้ว่ามีเสียงดังแหลม ๆ สองสามครั้ง แล้วมีแก๊สรั่วออกมาจากวงแหวนนั่นหลายต่อหลายครั้ง ผมหาข้อมูลและดูรายละเอียดจากในฐานข้อมูล มันไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่มันไม่เคยเกิดขึ้นในครั้งก่อนจะไม่เกิดในครั้งนี้ นั่นมันเป็นความเห็นแบบเด็ก ๆ มากเลย ผมหมายถึงแม่ก็เหมือนทีมวิศวกรนั่นแหละ และทีมบริหารก็คือเด็กคนนั้น นั่นคือสิ่งที่ผมเห็น ผมไม่รู้ว่าคุณจะว่ายังไงนะ แต่ไม่ช้าก็เร็วเด็กคนนั้นจะต้องเกิดอุบัติเหตุแน่ ๆ แต่ที่จริงกรณีนี้มันไม่ใช่อุบัติเหตุเลยนะ"

อันนี้ตอนที่ดร. ริชาร์ดเข้าไปตรวจสอบหลักฐาน

Richard Feynman (Articulate Scientist) - Space Shuttle Challenger Testimony

ดร. ริชาร์ดอธิบายสาเหตุของการระเบิดเพราะเกิดจากการใช้วัสดุไม่เหมาะสมมาใช้เป็นวงแหวนเพื่อเชื่อมต่อระหว่างข้อต่อของตัวกระสวยอวกาศ เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนตัวยางมันไม่ยืดหยุ่นจึงทำให้เกิดการรั่วไหล โดยที่ดร. ริชาร์ด อธิบายง่าย ๆ ด้วยการเอาวงยางมาบีบด้วยคีมแล้วเอาจุ่มในแก้วน้ำที่มีน้ำแข็งเพื่อให้เห็นว่าพอเจออากาศเย็นยางมันคงรูป มันไม่ยืดหยุ่น และเค้าคิดว่านี่มันเป็นปัญหาใหญ่ของเหตุการณ์นี้

ด้านล่างนี่คือข้อความที่ดร. ริชาร์ดแสดงความเห็นต่อการทำงานขององค์กร NASA สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ (เคยแปลไว้แล้วที่อยู่ในตอนท้ายของบทความ Apollo ตอน 2) 

ยังพบว่ามีการใช้วัสดุนี้มาแล้วเกิดปัญหาตั้งแต่ปี 1977 แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข จากเหตุการณ์นี้ดร. ริชาร์ดแสดงความเห็นเกี่ยวกับ NASA ไว้ว่า "NASA เป็นหนี้ประชาชนผู้ที่เขาร้องขอแรงสนับสนุน ให้เป็นองค์กรที่มีความตรงไปตรงมา ซึ่อสัตย์ และให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ดังนั้นประชาชนจึงจะสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดที่จะให้ใช้ผลประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความจริง (ข้อเท็จจริง) ต้องมีความสำคัญมากกว่าการประชาสัมพันธ์เนื่องจากธรรมชาติไม่สามารถหลอกกันได้"

------------------------------------------------------------------------