สำหรับคนที่ติดตามข้อมูลเรื่องโลกแบนน่าจะเคยเห็นโมเดลปิรามิดแบบนี้มาบ้าง มันเป็นโมเดลการควบคุมเพื่อให้คนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาแบบบนลงล่าง (Top-down control) คนกลุ่มเล็กควบคุมคนกลุ่มใหญ่ อำนาจสูงสุดจะอยู่ในมือคนกลุ่มเล็กนิดเดียว และใช้อำนาจผ่านเครือข่ายแยกย่อยลงมาตามลำดับขั้น จะเห็นว่าประชาชนทั่วไปอยู่ที่ใต้ฐานล่างสุดมีจำนวนมากที่สุดแต่มีหน้าที่เป็นแค่ทาสที่คอยหาเงินมาใช้หนี้ให้กับองค์กร/บริษัทในขั้นที่สูงขึ้นไป ลำดับที่สองถัดมาคือตัวควบคุมประชาชนกดให้อยู่ที่ฐานล่างผ่าน 3 องค์กรคือรัฐบาล สื่อสารมวลชน และระบบการศึกษา (Government / Media / Education) 3 องค์กรนี้จะทำงานสอดคล้องกันเพื่อความมีประสิทธิภาพในการปกครอง ทำให้ประชาชนมีความขัดแย้งกับรัฐให้น้อยที่สุด มีความรู้น้อย ๆ ไม่ต้องฉลาดมากจะได้ไม่มีอำนาจในการต่อรอง และฝึกให้มีความคิดมีพฤติกรรมอยู่ในกรอบตามที่ต้องการ แม้ว่าโมเดลนี้จะเป็นรูปแบบการปกครองของต่างประเทศแต่การปกครองของประเทศไทยก็ไม่ต่างกัน หลายอย่างเราก็ถอดแบบมาจากเขาโดยตรง โดยเฉพาะจากประเทศอเมริกา
"เราจะรู้ว่าภารกิจการบิดเบือนข้อมูลของเราเสร็จสมบูรณ์
ก็ตอนที่ทุกเรื่องที่คนอเมริกันเชื่อเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมด"
ก็ตอนที่ทุกเรื่องที่คนอเมริกันเชื่อเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมด"
- วิลเลียม เคซีย์, ผอ.ซีไอเอ กล่าวไว้ในการประชุมเจ้าหน้าที่ปี 1981
หนังสือ Lab Coats in Hollywood เขียนโดย Dr. David A. Kirby เป็นอาจารย์สอนด้านการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์อยู่ที่ University of Manchester เชื่อว่า Stanley Kubrick (ผู้กำกับภาพยนตร์) เป็นคนถ่ายทำเหตุการณ์นักบินอวกาศไปเยือนดวงจันทร์เมื่อปี 1969 ในสตูดิโอเดียวกันกับที่เค้าถ่ายหนังเรื่อง 2001: A Space Odyssey ที่ออกฉายเมื่อปี 1968
สำหรับบทความนี้จะชี้ให้เห็นเรื่องการควบคุมสื่อ ซึ่งโดยพื้นฐานประชาชนจะเชื่อว่าสื่อควรต้องทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลหรือองค์กรต่าง ๆ (ควรต้องอยู่คนละฝั่งเพื่อคานข้อมูลกัน) แต่ความจริงมีสื่ออยู่น้อยมากที่จะทำแบบนั้นได้ ส่วนใหญ่ก็รับข้อมูลแบบถูกควบคุมมาอีกที หรือมีระบบการเซ็นเซอร์ตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งกับรัฐหรือนายทุน ตัวอย่างข่าวที่เขียนเป็นสคริปต์มานักข่าวก็อ่านไปเหมือน ๆ กัน
ที่จริงแล้วสื่อก็เป็นอีกองค์กรนึงที่สำคัญมากในการให้ความรู้กับประชาชน แต่สื่อสมัยใหม่เน้นไปที่การให้ความบันเทิงเพื่อขายโฆษณามากกว่า ไม่ค่อยให้มุมมองหรือให้ข้อมูลเพื่อให้ประชาชนได้คิด แล้วถ้า 3 องค์กรนี้ร่วมมือกันคนที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือผู้ที่บัญชาการมาจากด้านบน ส่วนคนที่เสียหายเสียผลประโยชน์ก็คือประชาชนเพราะถูกริดรอนข้อเท็จจริง หรือจะพูดอีกอย่างนึงคือประชาชนกำลังถูกคอรัปชั่นทางสติปัญญาอย่างไม่รู้ตัว
บทความนี้จะเขียนถึงสื่อทางเลือกโดยเฉพาะกลุ่มสื่อที่เป็น social media เนื่องจากเรามักจะเชื่อกันว่าเป็นกลุ่มสื่อที่ควบคุมไม่ได้หรือควบคุมยาก และลักษณะการให้ข้อมูลก็มีความหลากหลายซึ่งต้องใช้วิจารณญาณเพื่อพิจารณา Eric Dubay จึงเขียนเล่าประสบการณ์ที่เค้าเจอเกี่ยวกับหน้าม้าและฝ่ายค้านแบบจัดตั้ง ทั้งแบบที่ออกมาให้ข้อมูลและออกมาแย้งเรื่องโลกแบน Eric Dubay เป็นชาวอเมริกันที่เขียนหนังสือ Flat Earth Conspiracy ออกวางขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2014 นอกจากหนังสือเขามี forum http://ifers.123.st/ (The International Flat Earth Research Society - IFERS) มี channel ใน youtube และยังออกมาพูดคุยเรื่องโลกแบนใน podcast และรายการวิทยุอีกหลายที่ และเนื่องจากเรื่องนี้เปิดโปงเบื้องหลังองค์กรรัฐอย่างเช่น NASA U.N. และองค์กรลับฟรีเมสัน ดังนั้นเค้าจึงถูกจับตามองและถูกสกัดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลทั้งถูกปิด channel ใน youtube หรือแม้กระทั่งถูกขู่ฆ่าก็โดนมาแล้วหลายครั้ง
"วิธีที่จะควบคุมฝ่ายตรงกันข้ามได้ก็คือการเข้าไปเป็นคนนำด้วยตัวเอง"
- วลาดีมีร์ อิลลิช เลนิน
Eric เขียนข้อมูลนี้ไว้ใน forum ตั้งแต่ 2016 และอัพเดทข้อมูลอยู่เรื่อย ๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าแหล่งข้อมูลไหนเป็นอย่างไร เพราะตอนเขียนหนังสือเขาใช้เวลาศึกษาค้นคว้าอยู่นานและต้องเชื่อมโยงข้อมูลหลายเรื่องโดยเฉพาะทฤษฎีสมคบคิด (Conspiracy Theory) และเขาเจอกลุ่มคนที่เป็นทั้ง shill (หน้าม้า) และพวก controlled opposition agents (ฝ่ายค้านแบบจัดตั้ง) มีหลากหลายรูปแบบ (รวมทั้งพวกที่เข้ามาเพื่อเกาะกระแสและพยายามสร้างชื่อเสียงเพื่อธุรกิจก็มี)
Eric Dubay อยู่เมืองไทยมาตั้งแต่ปี 2005 เค้าพูดภาษาไทยได้ ลองฟังเค้าอธิบายเรื่องธุรกิจค้าอาวุธที่เป็นเบื้องหลังการทำสงคราม เพราะฉะนั้นเวลาอ่านข้อมูลก็ต้องวิเคราะห์เองอย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมด พยายามมองหลาย ๆ มุมและคิดเยอะ ๆ หน่อย Eric เขียนถึง shill (หน้าม้า) ในวงการโลกแบนไว้หลายคน ขอยกมาเป็นตัวอย่างบางคนละกัน
Mark Sargent - เป็นนักออกแบบวิดีโอเกมและเป็นหนึ่งในเครือข่ายจัดงาน Flat Earth International Conference 2017 (เก็บเงินค่าเข้างานแพงด้วย) ซึ่ง Eric เล่าไว้ว่าหลังจากเขาออกหนังสือไปได้ 6 สัปดาห์ ช่วงนั้นเริ่มมีกระแสการพูดถึงทฤษฎีโลกแบนในโลก social แล้ว และ Mark Sargent เริ่มทำคลิป Flat Earth Clues ออกมาเป็น series โพสใน youtube แบบที่มี production ดีมาก และเริ่มออกให้สัมภาษณ์ตามรายการวิทยุหลายที่ ข้อพิสูจน์ของ Mark ในทฤษฎีโลกแบนไม่มีอะไรมากไปกว่าความเห็นของตัวเอง ซึ่งต่างจากสิ่งที่ Eric และชาวโลกแบนคนอื่น ๆ พยายามทำคือใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือด้วยการทดลองที่พิสูจน์ได้ แล้วจู่ ๆ Mark ก็เริ่มให้ข้อมูลว่า "ดวงจันทร์และดวงดาวต่าง ๆ ไม่มีจริง มันเป็นเพียงภาพ holographic" Eric เคยบอกให้ Mark แสดงหลักฐานเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เค้าพูดใน forum นี้ ซึ่ง Mark ก็เป็นสมาชิกอยู่แต่ก็ไม่มีคำอธิบายใด ๆ นอกจากนั้น Mark ก็ยังพูดโกหกหลายครั้ง อย่างเช่น Mark เคยให้สัมภาษณ์ไว้เองว่าเคยอ่านหนังสือที่ Eric เขียน แต่มาตอนหลังก็บอกว่าไม่เคยอ่าน เค้าเคยอ้างว่า Eric พูดแบบนั้นแบบนี้ทั้งที่ Eric ไม่เคยพูด
Lord Steven Christ - คนนี้เด็ดมาก ออกมาให้ข้อมูลเรื่อง concave earth (โลกเว้า) แล้วบอกว่าตัวเองเป็นร่างอวตารของพระเยซู ข้อพิสูจน์ของ Steven ไม่ค่อยมีหลักฐานแต่มีภาพกราฟฟิก 3D โลกเว้าที่ design ดีมาก ข้อมูลใน channel ของ Steven มีเยอะ แต่ก็มีบางส่วนที่ทำมาเพื่อหักล้างหรือปรักปรำสิ่งที่ Eric พูด แต่ Steven ก็ยังมาซื้อโฆษณาป้าย banner เพื่อโปรโมท concave earth ของตัวเองใน forum นี้ด้วย
ต่อมาเมื่อ Leo เสียชีวิตในปี 2010 ก็มี Daniel Shenton กับทีมงานเข้ามาทำเว็บต่อและมักจะให้ข้อมูลผิด ๆ หรือทำให้เรื่องโลกแบนเป็นเรื่องตลกไป เวลา search หาข้อมูลใน google เว็บไซต์ของ Flat Earth Society (FES) จะเป็นเว็บแรก ๆ ที่ขึ้นมา ตอนที่ Eric ทำ forum นี้ทางทีมงานของ Flat Earth Society ก็ขอเข้ามาร่วมด้วย พวกเขาให้ความชื่นชมกับงานที่ Eric ทำและยกให้ Eric เป็น Flat Earth President ในที่สุดพวกเขาพยายามขอรวม forum ของทั้ง FES และ IFERS เข้าด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รวม
Matt (Powerland) Boylan - บอกว่าตัวเองเคยทำงานเป็นศิลปินวาดภาพลูกโลกให้ NASA และเป็นคนแรก ๆ ที่ออกมาพูดเรื่องโลกแบน (ใน youtube จะมีคลิปที่เค้าพูดไว้ตั้งแต่ปี 2012) Eric เคย skype คุยกับ Matt อยู่หลายครั้งแต่ส่วนใหญ่จะเป็นฝั่ง Matt พูดซะ 95% บางทีก็โดนขัดจังหวะ หรือไม่ก็อัดเสียงแบบที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน Matt บอกว่าตัวเองเรียนจบมาจาก Jesuit School บางคลิปก็มีสวมเสื้อที่มีสัญลักษณ์ Masonic 33 ตัวใหญ่ ๆ และเขามักจะให้ข้อมูลว่าเรื่องโลกกลมเป็นผลงานของ Jesuit และในบทความของเขาเขียนว่าใครก็ตาม (รวมทั้ง Eric) ที่ให้ข้อมูลว่าโลกกลมเกี่ยวกับ Jews/Judaism เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
อันนี้แปลมาให้แบบคร่าว ๆ ยังมีอีกหลายคนที่น่าสงสัยตามรายชื่อนี้เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จะมีการสลับกันไปออกรายการของแต่ละฝั่งอยู่บ่อย ๆ Zhib Rhan / Crrow777 / Thomas Sheridon / Max Igan / Lori Frary / Steven William Engelhardt / Dave Johnson / Rayn Gryphon / Truthiracy ข้อสังเกตง่าย ๆ ถ้าใครมี production ดี ๆ มีเนื้อหาข้อมูลดี ๆ ก็แสดงว่าต้องมีทีมงานจัดทำให้ ซึ่งก็หมายถึงต้องมีเงินจ้าง แล้วเงินทุนนั้นมาจากไหน?? ก็ต้องพิจารณากันให้ดี
นักวิทยาศาสตร์กับโลกแบน
มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนถูกใช้เป็นเครื่องมือผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อ discredit โลกแบน เนื่องจากความน่าเชื่อถือในความรู้ของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น
Professor Brian Cox เป็นนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษสอนอยู่ที่ University of Manchester และทำรายการโทรทัศน์มานานหลายปีกับ BBC เขาออกมาบอกว่าในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติที่เขารู้มาไม่เคยมีใครคิดว่าโลกแบน แต่ที่จริงมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์จากหลายแห่งที่บอกว่าคนในยุคโบราณต่างก็เชื่อว่าโลกแบน และมีลักษณะคล้าย ๆ กันคือมีแผ่นดิน มีน้ำล้อมรอบ และมีโดมครอบอยู่อีกที
แล้วคุณค่า (value) ของความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ
ความซื่อตรงต่อความจริง (truth) อยู่ที่ไหน??
ความซื่อตรงต่อความจริง (truth) อยู่ที่ไหน??
-------------------------------------------------------