วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

24) คำตอบสำหรับคุณ Hawaree Mateha เรื่อง 'พลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า'

ตอบคำถามของคุณ Hawaree Mateha




จากที่เคยเขียนบทความไว้เรื่องการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ในโมเดลโลกแบน โดยใช้หลักการของ Electromagnetic มาอธิบายตามบทความนี้ https://flatearthmatters.blogspot.com/2018/09/23.html และคุณ Hawaree ถามแอดว่าหากการลอยตัวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เกิดขึ้นเพราะสนามแม่เหล็กไฟฟ้าจริง น่าจะเป็นปัญหากับอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารที่เราใช้อยู่ปัจจุบัน เท่าที่แอดทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลมาจะขอตอบว่าเป็นเรื่องของความแตกต่างของคลื่นความถี่ (frequency) เหมือนกับคลื่นความถี่ของแสงและเสียง ตาและหูของมนุษย์กับสัตว์ประเภทอื่น ๆ ก็มีความสามารถในการรับคลื่นได้แตกต่างกัน อย่างในภาพนี้อธิบายว่ารังสีแกมมา (Gramma ray) อยู่ในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองไม่เห็นและเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ใช้ในการถนอมอาหารได้




ส่วนเรื่องการลอยตัวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์น่ะ มันมีการทดลองอีกอันนึงของ John Hutchison ที่ใช้องค์ความรู้ของเทสลาสามารถทำให้สิ่งของลอยได้โดยใช้คลื่นความถี่จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเค้าอธิบายว่ามันน่าจะเกี่ยวกับ Electrostatics RF fields (สนามไฟฟ้าสถิตย์ของคลื่นวิทยุ) และปรากฏการณ์นี้ถูกเรียกว่า The Hutchison Effect แต่เนื่องจากเค้าไม่ได้ใช้ความรู้แบบวิทยาศาสตร์กระแสหลัก (mainstream science) และก็ไม่ได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วย จึงไม่ได้มีเอกสารวิชาการที่ตีพิมพ์เป็นทางการ และยิ่งเป็นความรู้ที่เกี่ยวกับเทสลายิ่งไม่ค่อยมีใครรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ลองดูภาพในคลิปจะเห็นว่ามีของบางอย่างลอยได้ แต่บางชิ้นไม่ลอย ไอติมที่ใส่ในแก้วก็ลอยขึ้นมา แต่แก้วไม่ได้ลอยตามมาด้วย ขนาดลูกปืนหนักตั้ง 70 ปอนด์ (31 กก.) ก็ลอยได้


Zero-Point Energy, Levitation, Electromagnetic Fields & Matter - The Hutchison Effect!


ในตอนท้ายคลิปมีนักวิชาการอธิบายว่าปรากฎการณ์แบบนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าแปลกใจเพราะว่าเค้าใช้อุปกรณ์ 2 ชิ้นคือ Tesla Coil และ Van de Graaff ในการทำให้สิ่งของลอยได้ ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์และได้ผลเป็นกราฟออกมาและได้ข้อสรุปว่ามันคือแรง (force) ชนิดใหม่ที่เค้าเรียกว่า hyper force และปรากฏการณ์ Hutchison effect นี้ก็ถูกใช้เป็นมาตรฐานเพื่อการเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่มีแรงขับเคลื่อนจากไฟฟ้าแรงสูง (High voltage propulsion devices) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า electro gravity

Van de Graaff Generator

เวลาเข้าไปอ่านคอมเม้นท์ในเพจต่างประเทศหลายคนก็จะอธิบายว่าการลอยตัวของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์คือปรากฏการณ์ของไฟฟ้าสถิตย์ และ Van de Graaff คืออุปกรณ์ที่ถูกพัฒนามาจาก Tesla Coil ซึ่งมักนำมาใช้สอนเรื่องไฟฟ้าสถิตย์นี้ให้กับเด็ก ๆ ส่วนคลิปด้านล่างนี่อธิบายดี แปะไว้เผื่อใครสนใจหาข้อมูลเพิ่ม


Should a Person Touch 200,000 Volts? A Van de Graaff generator experiment!


ส่วนอันนี้อธิบายเรื่องเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่า

Thunder and Lightning

มีนักฟิสิกส์หลายคนเขียนบทความเกี่ยวกับ Hutchison Effect ไว้อยู่ลองเข้าไปดูในเว็บของเค้าได้
http://www.hutchisoneffect.com/Research.php แนะนำเล่มนี้ก่อนเลย




และมีหนังสืออีกเล่มนึงชื่อ The Hunt for Zero Point เขียนโดย Nick Cook 



แอดหาข้อมูลเพิ่มเติมมามีคำอธิบายว่าปรากฎการณ์ Hutchison Effect เรียกว่า hyper atomic resonance ซึ่งทำให้เกิดปฏิกริยาแบบ diamagnetism และในทางกลศาสตร์ควอนตัมบอกไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้มีคุณสมบัติเป็นคลื่น (wave) และมีระดับความถี่ที่แตกต่างกันไป 

ดังนั้นคำตอบของแอดคือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำให้ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ลอยได้ไม่มีผลกระทบกับอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารบนโลกเพราะใช้ย่านคลื่นความถี่คนละระดับกัน

--------------------------------------------------------------------------